000
ปรึกษาเครื่องเสียง อจ. ไมตรี โทร 099-569-6459    
 
บอร์ดพูดคุย, ซื้อ-ขายเครื่องเสียง
>> audio-teams.com
>> noom-hifi.com
>> wijitboonchoo.com
>> hifi55.com  
>> sk-audiophile.com
>> htg2.net
นิตยสารเครื่องเสียง
>> what Hi-Fi? Thailand
>> The Wave
>> Audiophile-Videophile
>> gm2000.com
>> The Stereo
ร้านค้าเครื่องเสียง
>> Piyanas Electric
>> KS Sons Group
>> Conice (บ้านทวาทศิน)
>> อัศวโสภณ
>> munkonggadget.com
>> bkkaudio.com
 
ปรับขนาดตัวหนังสือ เช่น 15, 16, 18, 20, + + / ยกเลิกใส่ 0 :

หมวดหมู่ > บทความ > เครื่องเสียงบ้าน > Next STOP CD (CD อนาคต)
วันที่ : 15/01/2016
8,176 views

Next Stop CD (CD อนาาคต)

โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ

ต้องยอมรับว่า แหล่งรายการเพลงที่มีผู้นิยมและซื้อหาเก็บไว้ที่บ้าน คิดเป็นยอดจำนวนอัลบั้ม น่าจะต้องยกให้แผ่นเพลง CD ที่น่าจะมียอดเป็นพันล้านแผ่นทั่วโลก แม้ว่าปัจจุบันยอดจำหน่ายแผ่นเพลง CD จะลดน้อยถอยลง หดตัวลงอย่างน่าตกใจ จนร้านขายปลีกแผ่นCD ที่เป็นเครือข่ายพากันเจ๊งไปเกือบหมดแล้วทั่วโลก ที่ยังพออยู่รอดก็หดตัวลงและมีอนาคตที่ริบหรี่เนื่องด้วยเพราะ

  1. เพลงสมัยใหม่เน้นขายจังหวะจะโคนที่เอาแต่กระตุ้นต่อมตีนมากกว่าขายเนื้อร้องที่ลึกซึ้ง กินใจ เพลงประเภทนี้ทำง่าย ใครๆก็คิดได้ ที่ไหนๆก็มี จึงเกิดง่าย(ด้วยช่องทาง IT )และก็ตายง่ายมีอายุสั้นมาก 3 ? 6 เดือนไม่เกิน 1 ปีก็ตายจาก ลืมกันไปแล้ว พูดง่ายๆว่าไม่มีคุณค่าพอที่จะลงทุนซื้อแผ่นCD มาเก็บเป็นขยะที่ฟังไม่กี่ทีก็เซ็ง
  2. เพลงสมัยใหม่หมดมุขแล้ว การเกิดของเว็บไซด์ขายเพลงทั้งผีและลิขสิทธิ์หรือโหลดเพลงกันเองจากแหล่งเก็บ(Server) ของผู้บริโภคกันเอง(เรียก P-TO-P ) เป็นการแบ่งปันกัน (Share) ทำให้ผู้ฟังสามารถเข้าถึงเพลงไหน,สไตล์ไหนก็ได้อย่างสะดวกนับร้อยๆสไตล์และเป็นแสนๆเพลง มีอารมณ์อยากฟังเพลงแนวไหนได้หมดหลากหลายมหาศาล ครบถ้วน จนผู้แต่งเพลงใหม่ๆหมดปัญญาขายแนว, สไตล์, อารมณ์ใหม่ๆ คิดไม่ออก ลอกกันไปลอกกันมาก็แล้วจนไม่มีใครให้ลอก ไม่มีใครไม่ถูกลอก

ไม่มี ?ของใหม่?มาขายแล้วจะมีใครมาซื้อ ไม่ต้องคิดซับซ้อนก็บอกได้ว่าตลาดเพลงหดตัวลงแน่ๆ แทนที่จะเป็นสมัย0-50ปีที่แล้วที่ค่ายเพลงสามารถเลือกและไล่ปลุกสไตล์เพลงและดนตรีไปได้เรื่อยๆแตกต่างกันไปในแต่ละปี สร้างการ ?ลืม?ต่อผู้บริโภคได้เพื่อวนมาขายของเก่า (สไตล์) ได้เรื่อยๆ

  1. การดึงเพลงจากเว็บไซด์ผ่านอินเตอร์เน็ตทำให้ไม่จำเป็นต้อง ?ซื้อ?ตัวแผ่นCD (Physical CD )ที่จับต้องได้อีกต่อไป
  2. เริ่มมีเว็บไซด์ขายโหลดเพลงที่ให้เลือกแต่เพลงที่ชอบได้ ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินโหลดยกทั้งอัลบั้มที่มีเพลงชอบแค่ 1 ? 2 เพลงอีกต่อไปเป็นการประหยัด
  3. ต้นทุนของการขายเพลงทางอินเตอร์เน็ตหรือ On Line ของค่ายเพลงทำได้ง่ายกว่า ควบคุมได้ เก็บสด และต้นทุนต่ำกว่ามากเพราะตัดพ่อค้าคนกลางออกหมด(หรือเกือบหมด) สามารถตรวจสอบสถิติ,พฤติกรรมการฟังเพลง,ฯลฯ ของผู้บริโภคได้หมดและทันสมัยล่าสุดตลอดเวลา ทำให้ประเมินการออกเพลงใหม่ๆได้แม่นยำ เข้าเป้าตรงใจผู้ฟังมากขึ้น
  4. History) เมื่อมีอัลบั้มหรือเพลงใหม่ๆที่ ?ตรงใจ? ตรงรสนิยมของผู้ฟังท่านนั้นๆ โปรแกรมจะจัดการติดต่อ นำเสนอต่อผู้บริโภคแต่ละท่านที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของสไตล์เพลงนั้นๆทันที คือไม่รอให้ผู้บริโภคเข้ามาหา แต่วิ่งไป ?นำเสนอ?ถึงตัวเลย เช่นเดียวกันขณะผู้บริโภคโหลดเพลงไหน โปรแกรมนำเสนอก็จะขึ้นอัลบั้มเพลงในแนวเดียวกันนั้นด้วยเช่นกัน(แบบที่ใช้กับการขายหนังสือของเว็บไซด์ amazon.com)
  5. ผู้ซื้ออาจสามารถขอฟังตัวอย่างแต่ละเพลง(ใหม่หรือเก่า)ได้ ทางเว็บไซด์(โดยคงไม่ให้ฟังจนจบเพลง)เพื่อดูว่า ตรงใจชอบไหม ซึ่งวิธีนี้ร้านขายแผ่นCD คงทำได้ยากแม้จะมีการพยายามโหลดตัวอย่าง เพลงจากแต่ละอัลบั้มที่วางขาย เก็บไว้ใน HDD ไว้ให้ลุกค้าขอลองฟังได้ที่ร้าน แต่ก็ไม่มีทางเยอะเท่ากับเว็บไซด์ขายเพลงได้?????? ??????????????????????????????
  6. บนเว็บไซด์ให้เช่าเพลงโหลดมาฟัง โดยกำหนดระยะเวลาว่าสิ่งที่โหลดเก็บไว้จะยังเปิดฟังได้ตามใจชอบกี่วัน หลังจากนั้นมันจะลบหรือทำลายตัวเอง นอกจากการซื้อขาด
  7. การโหลดOn Line ทำให้ผู้บริโภค ?เข้าถึง?คลังเพลงขนาดมหึมาซึ่งเกินกว่าจะมีปัจเจกชนไหนรวบรวมไว้ได้ขนาดนั้น อีกทั้งไม่ต้องเสียเวลามาโหลดเก็บในHDD ของตัวเองให้วุ่นวายหรือต้องแบกติดตัวไปด้วย
  8. แม้ว่าการฟังเพลงจากการดาวน์โหลดหรือOn Line สดๆมักจะได้คุณภาพต่ำกว่าจากแผ่นCD โดยตรง (แม้แต่เลือกโหลดระดับคุณภาพมาสเตอร์ก็ตาม)แต่คนรุ่นใหม่ก็ไม่สนใจคุณภาพ (Quality)? มากไปกว่าจำนวน(Quantity) อีกต่อไป พวกเขาไม่มีโอกาสได้ฟังเสียงดีๆ,มิติดีๆ ระดับไฮ-ไฟจริงๆ (ยังไม่ต้องพูดถึงระดับไฮเอนด์) จึงคิดว่าเสียงจากOn Line โหลดแค่นั้นก็หรู ฟังได้แล้ว
  9. คนรุ่นใหม่ไม่อายอีกต่อไปที่จะนั่ง(ยืน,นอน)ฟังเพลงผ่านหูฟังในที่สาธารณะ,บนรถเมล์,รถไฟฟ้า,ในห้าง,ตามถนน อีกต่อไป มันให้ความสะดวกอย่างยิ่งยวด (any song,any time,any where,any loud) ให้เขาจมอยู่ในโลกส่วนตัว ท่ามกลางผู้คนและสิ่งแวดล้อมได้ทุกเมื่อไม่ใช่ถูกจำกัดว่า จะฟังเพลงทั้งทีต้องกลับไปฟังที่บ้านเท่านั้น
  10. การฟังผ่านการดาวน์โหลด (On Line) 100 %? ฟังจากหูฟัง,เครื่องพกพา,ล่าสุดฟังจากโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน (99.9%) เป็นการลงทุนฟังเพลง ที่ต้นทุนต่ำที่สุด (หูฟังตัวเดียว โทรศัพท์มีอยู่แล้ว) ไม่ต้องลงทุนกับชุดเครื่องเสียง (ต่อให้ถูกสุดไม่กี่พันถึงเป็นหมื่นๆ เป็นแสนก็ตาม) ไม่ต้องมีห้องเสียง (ลงทุนอีกเป็นแสนๆบาท) ไม่หนวกหูใคร เปิดดังแค่ไหนก็ได้ ส่วนที่ส่งเสริมพฤติกรรมนี้ก็คือ คุณภาพหูฟังที่ดีขึ้นมาก
  11. บางส่วนของผู้บริโภคหันไปดูหนัง (DVD,Blueray), ดูคอนเสิร์ต(แผ่น) จึงตีจากการฟังCD (หรือซื้อCD น้อยลง)
  12. ตัวเก็บคลังเพลงเช่น HDD Server ตามบ้านมีราคาถูกลงมากและเล่นง่ายขึ้นแม้แต่ PDA พกพาอย่าง IPAD, โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนก็ยังสามารถเก็บเพลงได้เป็นร้อยๆ เป็นพันๆ เพลง (ขึ้นอยู่กับการเลือกคุณภาพการบันทึกเก็บ)ทำให้อยากฟังเพลงไหน, สไตล์ไหนก็เรียกมาฟังได้อย่างเหลือเฟือถูกใจอยากจนไม่จำเป็นต้องซื้ออัลบั้มCD ใหม่ๆมาฟังอีก(สอดรับกับข้อ 2 )
  13. แม้ว่าจะมีความพยายาม ?ดิ้น? นำแผ่นCD อัลบั้มเก่ามาชุบชีวิตมาสเตอร์ (Remaster)ใหม่ ปั๊มออกมา? เป็นแผ่นCD อย่างดี,คุณภาพสูงที่เรียกว่าแผ่นหูทอง(Audiophile)ด้วยการชุบชีวิตหลากเทคนิค (HDCD,DSD,UP SAMPLE,XRCD 24, แผ่นทอง,ฯลฯ) แล้วตั้งราคาขายแพงกว่าปกติ 3 ? 5? เท่า ใหม่ๆคนก็แห่กันมาซื้อด้วยคาดหวังว่าจะได้สัมผัสคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นสมราคา แต่กลับปรากฏว่าถ้าจะมีดีขึ้นก็ดีขึ้นแค่ 5 ? 8 % ไม่คุ้มค่าเงินอย่างยิ่ง แถมหลายๆอัลบั้มเสียงชัดขึ้นแต่ความน่าฟังลดลง

เนื่องเพราะทำให้ตายอย่างไรมันก็อั้นที่มาสเตอร์แรกสุดที่ทำไว้ (You can get something from nothing)

  • CD เพลงลง ยิ่งค่ายเพลงไทยวัยรุ่นคุณภาพเสียงอัปยศอดสู เลวร้ายมาก เสียงพอๆกับโหลดMP3ที่ระดับต่ำสุดจาก On? Line (เลวกว่าฟังเทปคาสเซท)

ถามว่าคุณภาพเพลงที่ ?ตายซาก ไร้สร้างสรรค์?คุณภาพเสียงที่ ?สุดเลว? ถามว่าใครอยากจะซื้อ CD นั้นมาฟัง ให้ฟรียังเคืองเลย

?????? จากข้อ 14 ข้อแรงๆนี้ก็คงไม่ต้องสงสัยแล้วว่า ทำไมยอดขายแผ่นCD ถึงดิ่งลงเหว แบบกู่ไม่กลับ เป็นความอับโชค อาภัพของนักเล่นจริงๆที่นับวันจะหาแหล่งรายการดีๆฟังยากขึ้นทุกๆที???? (อย่าพูดถึง ?จานเสียง?ที่มีความพยายามจะนำกลับมาปลุกผี.........มันจบไปนานแล้ว ว่างๆ จะสาธยายเหตุผลให้ฟัง)

?????? ทางออกของวงการCD เพลงคือ

  1. รวมฮิตจากหลายๆอัลบั้ม รวมไว้เป็นอัลบั้มเดียวกัน(The best of???????)
  2. รวมเป็น SET BOX เช่นรวมสุดยอดเพลงคลาสสิคที่ฟังง่าย 10 แผ่น/ชุด
  3. เอามาสเตอร์เก่ามาชุบชีวิตดังกล่าวแล้ว(เคยใช้ได้ผลเมื่อ 4 ? 5 ปีที่แล้ว ปัจจุบันนักเล่นเข็ดเขี้ยวแล้ว)
  4. ขายแผ่นเพลงCD พร้อมแผ่นภาพ DVD คอนเสิร์ตอัลบั้มเดียวกัน

?แล้วก็มาถึงประเด็นเด็ดที่อยากนำเสนอคือยังไม่มีใครคิดทำมาก่อน

?????? -ในแผ่นCD เพลงนั้น จะมีการใส่ ?สัญญาณควบคุม?(Control Signal หรือ Pilot Signal เรียกสั้นๆว่า? CS ก็แล้วกัน)???? สัญญาณ CS นี้จะสัมพันธ์กับเสียงดนตรีไม่ว่าด้านระดับเสียง,ความถี่เสียง,การดับ-ติดๆ เหมือนทำ Sound Light เมื่อ 40 ปีที่แล้ว? โดยจะมีการวางจำหน่ายกล่องสาดแสงไฟหลากสีจากดวงไฟLED แรงสูง(HIGH POWER LED) ซึ่งจะให้สีสันสาดหรืยิงเป็นลำ ไปกระทบกำแพง,ผนัง,เพดานห้อง ตามเสียงเพลงขณะนั้นๆเช่นสีน้ำเงินกับความถี่ต่ำๆ สีเขียวเข้มกับเสียงกลางต่ำ? สีส้มกับกับเสียงกลางสูง? สีแดงกับเสียงแหลม หรือเป็นการไล่โทนสีอย่างละเอียดจากดวงไฟ LED 3 สี/กลุ่ม(แดง,เขียว,น้ำเงิน) เรียกว่า เหมือนยกเธคมาไว้ในห้องนอน,ห้องฟังกันเลย

?????? สัญญาณ CS สามารถต่อผ่านกล่องกำหนดสีสันของแสงให้ไปปรากฏบนหน้าจอ LCD TV ให้เปลี่ยนสีสัน อ่อนแก่? มืด-สว่างตามเพลงได้(กรณีนี้ไม่ต้องมีดวงไฟ LED )

?????? -แทนที่จะนำสัญญาณ CS? ไปควบคุมหลอดสีแสง LED? ก็เปลี่ยนเป็นลำแสงเลเซอร์ แดง,เขียว ,น้ำเงิน โดยมีการเขียนโปรแกรมใส่มาในแผ่นเพลง CD ที่จะไปบังคับกลไกการยิงแสงเลเซอร์เหล่านั้น ให้ยิงเป็นลำ หรือแกว่งกวาดไปมา, ซ้าย-ขวา, ขึ้น-ลง, หรือควงสว่านจนสร้างภาพต่างๆลอยอยู่ในอากาศได้ หรือต่อเข้าจอ LCD สร้างภาพเพลง (ไซเคเอลิค) ขึ้นจอได้เช่นกัน พุดง่ายๆว่า ปัจจุบันในคอนเสิร์ตหรือเธคมีระบบแสง (LIGHTING) อย่างไร เราก็ยกมาเล่นในบ้านได้เหมือนกัน (แต่สเกลเล็กกว่า)

?????? -อาจมีร่องสัญญาณ CS? บางร่องไว้บังคับตัวสร้างควัน (SMOKE) ด้วยก็ได้

?????? -ในอดีตมีการพยายามใช้หลักการนี้ในการให้ CS ไปกระตุ้นการทำงานปล่อยความถี่ต่ำลึกมาสั่นเก้าอี้นั่ง? ในการดูจากแผ่นหนังDVD ,BLURAY ที่เรียกว่า D-BOX มาก่อนเมื่อประมาณ 6 ปีมาแล้ว แต่ก็ไปไม่รอดเพราะตัวเขย่าสั่นยังมีราคาสูงเป็นแสนบาทขึ้นไป

?????? ไม่แน่เมื่อแผ่นหนัง BLURAY บางแผ่นสามารถให้ผู้ดูพ่วงเครื่องเล่นBLURAY เข้ากับเว็บไซด์ของหนังเรื่องนั้นๆ (เรียก BD-LIVE) เพื่อโหลดข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนั้นมาดูได้ด้วย โดยไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลเหล่านี้ลงไปในแผ่น BLURAY

?????? ก็เป็นไปได้ที่จะมีการใช้แผ่นเพลง CD เล่นกับเครื่อง BLURAY แล้วเชื่อมเข้าเว็บไซด์ของอัลบั้มเพลงนั้น? ดึงสัญญาณ CS ของอัลบั้มนั้นมาเล่นได้ หรือขึ้นจอ บอกที่มาที่ไปของแผ่นอัลบั้ม CD เพลงนั้นๆ

?????? ด้วยวิธีนี้เชื่อว่า อัลบั้มเพลง CD น่าจะยังคงเดินหน้าต่อไปได้อีกพักใหญ่ๆแต่ถ้าไม่ทำอะไร ก็นับถอยหลังได้เลย

?????? นักเล่นที่ชื่นชอบคุณภาพเพลง การได้จับต้องกล่องและแผ่นจริงๆ มีสมุดเล่าเรื่องที่มาที่ไปของอัลบั้มนั้นๆ (ถ้ามี) ก็ควรรีบซื้อสะสมไว้แต่เนิ่นๆก่อนที่มันจะกลายเป็นของหายากราคาแพง

www.maitreeav.com

www.maitreeav.com
สำนักงาน : 313/129 ซ. เคหะร่มเกล้า 64 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520
โทร. 081-5500269 , 099-569-6459